วันจันทร์, 2 ธันวาคม 2567

มิตซูบิชิ เล็งผลิตรถยนต์ ไฮบริด ในประเทศไทย

โรงงาน มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ที่แหลมฉบัง จ.ชลบุรี ได้ไฟเขียวให้ขึ้นไลน์ผลิต Mitsubishi Xpander และบี-เอสยูวี รุ่นใหม่ X Force ที่เพิ่งเปิดตัวในประเทศอินโดนีเซียไปสดๆ ร้อนๆ

เลิกผลิตอีโคคาร์ Mitsubishi Mirage/Attrage ในไทย

ทั้งนี้ ประธานมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย “เออิอิชิ โคอิโตะ” เคยประกาศว่า ตั้งแต่ปี 2024 การผลิตรถยนต์นั่งของบริษัทในไทยจะเป็นไฮบริดทั้งหมด

“เรามุ่งมั่นที่จะนำเสนอระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า (xEV) ในรถยนต์นั่งทุกรุ่นของเรา ออกสู่ตลาดเมืองไทยตั้งแต่ 2024 ส่วนรถกระบะอีวี จะได้เห็นหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับตลาดว่าต้องการแบบไหน ปัจจุบันพฤติกรรม การใช้งานกระบะจะใช้เพื่อขนของ วิ่งระยะไกล ซึ่งเครื่องยนต์ดีเซล ได้เปรียบ และเมื่อมองไปที่ทั่วโลกก็ยังคงใช้งานรถกระบะเครื่องยนต์ดีเซล อยู่” นายโคอิโตะ กล่าว

ประเด็นนี้ถูกยืนยันอีกครั้งในงานเปิดตัว All new Mitsubishi Triton เดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา ว่า มิตซูบิชิ มอเตอร์ส มีแผนผลิตรถยนต์ไฮบริดในไทย ตามแพกเกจส่งเสริมการลงทุนที่ได้รับการอนุมัติจากบีโอไอ

 

“เรามีแผนผลิตรถยนต์นั่งรุ่นใหม่ในไทย ควบคู่ไปกับรถกระบะไทรทัน โดยหลังจบจากโครงการอีโคคาร์เฟส 2 แล้ว จะเตรียมผลิตรถยนต์นั่งไฟฟ้า xEV ที่ขอส่งเสริมการลงทุนต่อบีโอไอไว้” นายโคอิโตะ กล่าวสรุป

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เคยประกาศแผนธุรกิจระยะกลาง 3 ปี (ปีงบประมาณ 2566-2568) หรือ Challenge 2025 คือการให้ความสำคัญต่อการจัดการทรัพยากรเพื่อการดำเนินงานในภูมิภาคอาเซียน  โอเชียเนีย ควบคู่ไปกับการเพิ่มยอดขาย ส่วนแบ่งตลาด และรายได้ พร้อมเปิดตัวรถยนต์ 16 รุ่น ภายใน 5 ปีข้างหน้า ในจำนวนนี้ เป็น xEV 9 รุ่น

เมื่อพิจารณาจากเงื่อนเวลาแล้ว รถยนต์ไฮบริดรุ่นแรกที่จะขึ้นสายการผลิตในไทยช่วงปี 2024 คือ Mitsubishi Xpander Hybrid จากนั้น ถึงจะเป็นคิวของ Mitsubishi X Force Hybrid

สำหรับ Mitsubishi XForce เป็นครอสโอเวอร์ หรือบี-เอสยูวี ที่เพิ่งเปิดตัวในงานอินโดนีเซีย ออโต้โชว์ 2023 ประเดิมด้วยรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร จากนั้นไม่เกินปี 2025 จะขึ้นสายการผลิตเวอร์ชันไฮบริด ที่โรงงานมิตซูบิชิ มอเตอร์ส แหลมฉบัง จ.ชลบุรี

นั่นหมายถึงไม่เกินปีงบ ประมาณ 2024 มิตซูบิชิ มอเตอร์ส จะหยุดการผลิตอีโคคาร์ ทั้งสองรุ่น คือ Mirage และ Attrage และมุ่งสรรพกำลังไปที่รถยนต์นั่งไฮบริด (ที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน) และรถกระบะที่เป็นฐานการผลิตอันดับหนึ่งของมิตซูบิชิ รวมถึงเอสยูวีที่พัฒนาบนพื้นฐานเดียวกัน(พีพีวี)  “ปาเจโร สปอร์ต” เพื่อส่งออกไปกว่า 100 ประเทศทั่วโลก

ส่วนรถกระบะไฟฟ้า EV มิตซูบิชิ ยืนยันว่า ปัจจุบันกำลังพัฒนารถต้นแบบอยู่ พร้อมศึกษาระบบขับเคลื่อนในหลายๆ รูปแบบทั้ง ไฮบริด และปลั๊ก-อินไฮบริด แต่เชื่อว่ายังไม่ได้เห็น ไทรทัน เวอร์ชันไฟฟ้า ทำตลาดก่อนปี 2025 แน่นอน

นอกจากแผนธุรกิจระยะกลาง 3 ปี หรือ Challenge 2025 แล้ว มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ยังตั้งเป้าหมายภายในปี 2030 ยอดขายรถยนต์ 50% จะเป็นไฮบริด จากเงินลงทุน 5.4 หมื่นล้านบาท เพื่อจัดหาแบตเตอรี่รวมทั้งหมด 15 กิกะวัตต์ชั่วโมง ก่อนที่ปี 2035 จะหยุดผลิตรถกินนํ้ามัน แล้วขายรถพลังงานไฟฟ้า EV 100%