Nissan Terra แบ่งการขายเป็น 4 รุ่นย่อย ราคา 1.199- 1.555 ล้านบาท ถ้าเทียบระดับราคากับสิ่งที่ได้รับถือว่ามีความคุ้มค่าพอสมควร ส่วนรุ่นท็อปใหม่ Nissan Terra Sport 2023 ราคา 1.555 ล้านบาท นำรุ่น VL 4WD มาตกแต่งเพิ่มเติมด้วยทริมสีดำ ทั้ง กระจังหน้า กันชนหน้า- หลัง ฝาครอบไฟตัดหมอก กระจกมองข้าง ราวหลังคา มือจับประตู เสาอากาศครีบฉลาม คิ้วตกแต่งซุ้มล้อ และบันไดข้าง ล้วนเป็นสีดำทั้งหมด
ภายใน Nissan Terra Sport 2023 ไม่ได้ใส่ฟังก์ชันอะไรเพิ่มเติม มากไปกว่าตอนเปิดตัวรุ่นไมเนอร์เชนจ์ (2 ปีที่แล้ว) เน้นโทนสีดำ ทั้งเบาะนั่ง แดชบอร์ด แผงประตู วัสดุรวมๆ ดูดี สัมผัสพรีเมี่ยม ตัดกับหลังคาสีครีม
หน้าจอกลางแบบทัชสกรีนขนาด 9 นิ้ว เชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย แต่ระบบ Android Auto ยัง ต้องเสียบสาย ส่วนจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ 11 นิ้ว แปะอยู่บนหลังคา รอนำเสนอความบันเทิงสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง สามารถเสียบอุปกรณ์ Android TV กับช่อง HDMI แล้วต่อเชื่อมกับสมาร์ทโฟนดู NetFlix YouTube หรือโปรแกรมสตรีมมิ่งอื่นๆ ได้เลย
ในรุ่นท็อป Nissan Terra Sport 2023 ยังได้เครื่องเสียง Bose พร้อมลำโพง 8 ตำแหน่ง คุณภาพเสียงแน่นๆ ฟังเพลินตลอดเส้นทาง และยังช่วยกลบเสียงรบกวนอื่นๆ ที่สะท้อนเข้ามาภายในห้องโดยสารได้เป็นอย่างดี
ด้านเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาด 2.3 ลิตร เทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500 – 2,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด ยังตอบสนองทันอกทันใจ วิ่งทางไกลความเร็วสูงไหลได้ยาวๆ
ส่วนช่วงล่างหน้าปีกนกสองชั้น พร้อมคอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง ด้านหลังเป็นแบบ 5 จุดยึด (5-Link) พร้อมโช้คอัพ คอยล์สปริง รองรับแรงสะเทือนจากพื้นถนนได้ดีระดับหนึ่ง ไม่แข็งกระด้างเหมือนรถกระบะ(ที่ช่วงล่างหลังเเป็นแหนบ) แต่ก็ไม่นุ่มเหมือนเอสยูวีที่พัฒนาบนพื้นฐานรถยนต์นั่ง
หากเทียบความหนึบแน่น Nissan Terra ไม่แพ้ใครในตลาดในระดับราคาใกล้เคียงกัน แต่ถ้าจะเอาความกลมกล่อม สมดุลสุดๆ ในเซกเมนต์นี้ ผมยังยกให้ Ford Everest ครับ
ส่วนพวงมาลัยแบบแรคแอนพิเนียน ผ่อนแรง ด้วยไฮดรอลิก ปรับอัตราทดมาใหม่ แต่การผ่อนแรงของระบบผมว่ายังขาดๆเกินๆ กล่าวคือ วิ่งความเร็วสูงเกิน 100 กม./ชม. ยังรู้สึกว่าเบามือไปนิด

2.3 E 2WD 7AT
ราคาเริ่มต้น
฿1,199,000
KEY FEATURES
- ไฟหน้าแบบ Quad-Eye LED และไฟ Daytime
- วิทยุหน้าจอสัมผัส 8″ พร้อม Nissan Connect เชื่อมต่อสมาร์ทโฟน
- การออกแบบให้ที่นั่งสามารถปรับได้หลากหลายและสามารถพับเบาะเพียงปลายนิ้วด้วย Auto Tumble Seat
- หน้าจอมิเตอร์ TFT อัจฉริยะแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ 3 มิติขนาด 7 นิ้ว พร้อม Off-Road Meter
- เทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคันแบบ 360 องศา (IFCW,IEB,LDW,IDA)
- เครื่องยนต์ดีเซล 2.3 ลิตร เทอร์โบคู่ 190 แรงม้า พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีดพร้อมโหมดแมนนวล

2.3 VL 2WD 7AT
ราคาเริ่มต้น
฿1,449,000
KEY FEATURES
- ไฟหน้าแบบ Quad-Eye LED และไฟ Daytime
- โทนสีภายในแบบ 2-Tone พร้อมวัสดุบุนิ่ม มีให้เลือกทั้ง สีดำ-แดงเบอร์กันดี / สีดำ-ครีม
- ระบบ Entertainment พร้อมจอมอนิเตอร์ขนาด 11 นิ้วพร้อมช่องต่อ HDMI สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง
- วิทยุหน้าจอสัมผัส 9″ พร้อม Nissan Connect เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนกับ Wireless Apple CarPlay/ Android Auto
- เทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคันแบบ 360 องศา (IFCW,IEB,LDW,IRVM,BSW,RCTA,IDA)
- เครื่องยนต์ดีเซล 2.3 ลิตร เทอร์โบคู่ 190 แรงม้า พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีดพร้อมโหมดแมนนวล

2.3 VL 4WD 7AT
ราคาเริ่มต้น
฿1,519,000
KEY FEATURES
- ไฟหน้าแบบ Quad-Eye LED และไฟ Daytime
- โทนสีภายในแบบ 2-Tone พร้อมวัสดุบุนิ่ม มีให้เลือกทั้ง สีดำ-แดงเบอร์กันดี / สีดำ-ครีม
- ระบบเครื่องเสียงจาก BOSE พร้อม Amplifier และลำโพง ติดตั้ง 8 ตำแหน่งรอบคัน
- ระบบกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (IAVM) พร้อม 4×4 Off-Road Mode
- เทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคันแบบ 360 องศา (IFCW,IEB,LDW,IRVM,BSW,RCTA,IDA)
- เครื่องยนต์ดีเซล 2.3 ลิตร เทอร์โบคู่ 190 แรงม้า พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีดพร้อมโหมดแมนนวล

2.3 VL 4WD 7AT SPORT
ราคาเริ่มต้น
฿1,555,000
KEY FEATURES
- ชุดอุปกรณ์ตกแต่งภายนอกสีดำสไตล์สปอร์ตรอบคัน
- โทนสีและการตกแต่งภายในสีดำสไตล์สปอร์ตพรีเมียม
- ระบบเครื่องเสียงจาก BOSE พร้อม Amplifier และลำโพง ติดตั้ง 8 ตำแหน่งรอบคัน
- ระบบกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (IAVM) พร้อม 4×4 Off-Road Mode
- เทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคันแบบ 360 องศา (IFCW,IEB,LDW,IRVM,BSW,RCTA,IDA)
- เครื่องยนต์ดีเซล 2.3 ลิตร เทอร์โบคู่ 190 แรงม้า พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีดพร้อมโหมดแมนนวล