วันพฤหัสบดี, 14 พฤศจิกายน 2567

ฮอนด้า HR-V e:HEV ปรับโฉม ฟังก์ชันครบครัน ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ราคาใหม่ เริ่มต้น 8.9 แสน

สปอร์ตพรีเมียมเอสยูวี ดีไซน์โดดเด่น ฟูลไฮบริด เร่งแรงได้ดั่งใจ ประหยัดน้ำมันเกินคาด ฟังก์ชันครบครัน ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

ราคาประมาณการเริ่มต้น 89X,XXX บาท

ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี (Honda HR-V e:HEV) สร้างความตื่นเต้นให้กับตลาดได้ไม่น้อยเมื่อเปิดตัวครั้งแรก  และมาโดดเด่นยิ่งขึ้นเมื่อเปิดตัวรุ่นที่ 2 ในช่วงปลายปี 2564 ด้วยเทคโนโลยีใหม่ และประสิทธิภาพในการขับขี่ที่ดีขึ้น

และวันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 ฮอนด้า จะเปิดตัว HR-V e:HEV รุ่นปรับโฉมอย่างเป็นทางการ โดยมีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดทั้งภายนอก ภายในบางส่วน  เพิ่มสีใหม่ และที่สำคัญคือ การปรับราคา ที่ระบุว่าต้องการให้ลูกค้าเข้าถึงได้ง่ายขึ้น

รวมถึงการเตรียมแคมเปญไว้รองรับช่วงการเปิดตัวครั้งนี้ด้วย

HR-V e:HEV ปรับโฉม จะยังคงมี 3 รุ่นย่อยเหมือนเดิม คือ

  • Honda HR-V e:HEV E
  • Honda HR-V e:HEV EL
  • Honda HR-V e:HEV RS

โดยการแปลี่ยนแปลงของ เอชอาร์-วี ไมเนอร์เชนจ์ ประกอบด้วย

รุ่น EL และ E

ด้านหน้าออกแบบบใหม่ ปรับเปลี่ยนกันชนหน้าและกระจังหน้ารูปทรงใหม่ให้ดูสปอร์ตมากขึ้น ผ่านรูปทรงที่ช่วงปลายกระจังหน้าซ้าย-ขวา เป็นแนวตั้งมากขึ้น จากเดิมจะเป็นแนวเอียงออกด้านนอก

และครั้งนี้ รุ่น e:HEV E  กระจังหน้าสีเดียวกับตัวรถ จากเดิมใช้สีดำ

ภายในห้องโดยสาร ออกแบบคอนโซลกลางใหม่ โดยแบ่งพื้นที่ด้านบนและล่าง และมีช่องเก็บของเอนกประสงค์มาให้

ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แอดวานซ์ ทัช รองรับแอ๊ปเปิ้ล คาร์เพลย์ และแอนดรอยด์ ออโต้ แบบไร้สาย รองรับการสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto

จุดเปลี่ยนอีกอย่างคือจอที่เป็นแบบบาง และลอยตัวมากขึ้น จากเดิมที่จะมีพื้นที่ด้านหลังทอดไปบนคอนโซล ที่ลูกค้าบางส่วนก็ไม่ชอบนัก ตั้งแต่ช่วงเปิดตัวครั้งแรก

e:HEV EL เพิ่มออปชั่นความสะดวก ด้วยเบาะนั่งปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง จากเดิมเป็นแบบปรับมือ

e:HEV EL เพิ่มที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย (Wireless Charger)

ทั้ง 2 รุ่น อัปเกรดช่องเชื่อมต่อ USB เป็น 4 ช่อง แบ่งเป็น Type A 1 ช่อง และ Type C 3 ช่อง (ด้านหน้า 1 ช่อง  หลัง 2 ช่อง)

แผงบังแดดทั้ง 2 รุ่น พร้อมกระจกหน้าแบบฝาปิด เพิ่มไฟส่องสว่างมาให้

e:HEV E เพิ่มช่องแอร์ด้านหลัง น่าจะถูกอกถูกใจลูกค้าในเมืองร้อนๆ แบบนี้

e:HEV RS

  • ทางด้านตัวท็อป e:HEV RS มีการปรับเปลี่ยนหลายอย่างมากกว่ารุ่นเริ่มต้นและรุ่นกลางชัดเจน ทั้งมุมมองด้านหน้าดีไซน์ใหม่ โดยกระจังหน้าจะต่างจากอีก 2 รุ่น ที่เป็นสีเดียวกับตัวรถ แต่ RS เป็นแบบโครเมียม พร้อมสัญลักษณ์ RS เพิ่มความสปอร์ตและพรีเมียม
  • ไฟหน้า แบบ Full LED Light Strip ดีไซน์ใหม่ สี smoke
  • ระบบไฟหน้า Adaptive Driving Beam (ADB)
  • ไฟส่องสว่างด้านข้างเวลาเลี้ยว (Active Cornering Light : ACL) เป็นการใช้แสงจากโคมไฟหน้าที่โคมสามารถปรับทิศทางตามการหมุนพวงมาลัย ไม่ใช่ใช้ไฟติดตั้งไว้ด้านข้างอีกดวง
  • ล้ออัลลอย 18 นิ้ว ลายเดิมแต่ปรับสีให่ สีดำ Berlina Black แบบ Diamond Cut
  • ไฟท้ายปรับใหม่ เป็นแบบ Full LED Light Strip สี smoke
  • เพิ่มเซ็นเซอร์กะระยะด้านหลัง 4 จุด
  • ภายในออกแบบคอนโซลลางใหม่เหมือนกับอีก 2 รุ่น แต่ RS มีถาดเอนกประสงค์
  • เพิ่ม USB เหมือนกับอีก 2 รุ่น รวมถึงปรับจอมอนิเตอร์ใหม่เช่นกัน

งที่เปลี่ยนแปลงอื่นๆ ที่เหมือนกันทั้ง 3 รุ่นคือ จอแสดงข้อมูล TFT 7 นิ้ว โดยหลักๆ  ไม่ได้เปลี่ยนอะไร แต่เพิ่มฟังก์ชันจอแสดงไฟเบรกมาให้

อีกอย่างหนึ่งคือ กล้องมองหลังที่ปรับสเปคเพิ่มความละเอียด ทำให้ภาพที่แสดงหน้าจอมีความคมชัดมากขึ้น

สำหรับสีมีทั้งหมด 6 สี และมีสีใหม่ 1 สีคือ

  • สีกากีแซนด์ (มุก) มาพร้อมหลังคาสีดำ โดยจะมีให้เลือกเฉพาะรุ่น RS และ EL
  • สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) พร้อมหลังคาสีดำ มีเฉพาะใน RS
  • สีขาวพรีเมียมซันไลท์ (มุก)
  • สีเทา เมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก)
  • สีขาวแพลทินัม (มุก)
  • สีดำครัลตัล (มุก)

สำหรับราคาจำหน่าย ฮอนด้าจะระบุอย่างเป็นทางการในวันเปิดตัว แต่ก็ยืนยันว่าในเปิดตัว จะมีโครงสร้างระดับราคาพิเศษเพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงได้ง่ายขึ้น  ประกอบด้วย

  • Honda HR-V e:HEV E ราคาประมาณ 8.9 แสนบาท ++
  • Honda HR-V e:HEV EL ราคาประมาณ 1.0 ล้านบาท ++
  • Honda HR-V e:HEV RS ราคาประมาณ 1.1 ล้านบาท ++

ส่วนราคาปัจจุบันของ HR-V e:HEV คือ

  • Honda HR-V e:HEV E ราคา 979,000 บาท
  • Honda HR-V e:HEV EL ราคา 1,079,000 บาท
  • Honda HR-V e:HEV RS ราคา 1,179,000 บาท

ทางด้านเทคเทคนิคไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร โดยฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ขับเคลื่อนด้วยฟูลไฮบริด ทำงานร่วมกันระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง 2 ตัว มีแรงบิดโดดเด่น 253 นิวตัน-เมตร กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว เกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และชุดหน่วยควบคุม  (Intelligent Power Unit – IPU) แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน อัตราสิ้นเปลืองสูงสุด 25.6 กม./ลิตร

และก่อนการเปิดตัวช่วงที่ผ่านมา ฮอนด้าเปิดให้ลูกค้าจองสิทธิ ระหว่างวันที่ 10 กันยายน 2567 – วันที่ 27 พฤศจิกายน 2567

และผู้ที่ตัดสินใจจองรถและรับรถ ตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 – 31 ธันวาคม 2567 จะได้รับบัตรเติมน้ำมัน 5,000 บาท

และเตรียมจัดแคมเปญเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยสำหรับเจ้าของรถยนต์ฮอนด้าและครอบครัว Honda Loyalty (คาดว่าดอกเบี้ยจะลดลง 0.3%)

 รวมถึงแคมเปญ “Honda Happy Trade-in” ขายรถคันเดิมเพื่อซื้อเอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ รับเพิ่มบัตรน้ำมันสูงสุด 30,000 บาท อีกด้วย