เป็นที่จับตามองของทุกคนกับงานเปิดตัว Apple iPhone 13 ท่ามกลางความคาดเดา และข้อมูลที่รั่วออกมา ทำให้นักวิเคราะห์ สามารถสรุปได้ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในการเปิดตัว iPhone 13 ในค่ำคืนนี้
โดยในวันนี้ ทาง Apple จะเปิดตัว iPhone 13, Apple Watch Series 7, iPad 9 และ MacBook Pro ตัวใหม่ ในคืนนี้เวลา 00.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ภายในงาน “California streaming” แน่นอนว่าเป็นอีเวนท์ใหญ่ที่เหล่าสาวก Apple ทั่วโลกต่างรอคอย ที่จะเกิดขึ้นเป็นประจำในทุก ๆ ปี
ซึ่งตามข้อมูลวงในที่หลุดออกมานั้น ต่างเชื่อได้ว่า iPhone 13 จะไม่ได้แตกต่างจาก iPhone 12 มากนัก แต่จะเพิ่มคุณสมบัติใหม่และปรับปรุงให้ดีขึ้นแทน โดยจะแบ่งออกเป็น 4 รุ่นเหมือนเดิม ได้แก่ iPhone 13 mini, iPhone 13, iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max ซึ่งจะมาพร้อมกับขนาดจอที่เท่าเดิม ไล่มาตั้งแต่ 5.4 นิ้ว, 6.1 นิ้ว และ 6.7 นิ้ว
และจะเปลี่ยนมาใช้ ชิป Apple A15 Bionic ที่ได้รับการปรับปรุง เพื่อให้มีประสิทธิภาพเร็วขึ้น และใช้พลังงานน้อยลง ซึ่งมาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่ขนาดใหญ่กว่ารุ่นก่อน 18-20 เปอร์เซ็นต์ รวมไปถึงข่าวที่ระบุว่า iPhone 13 Pro อาจมีพื้นที่เก็บข้อมูลมากถึง 1 TB ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากจากสูงสุด 512 GB ก่อนหน้า
ส่วนในเรื่องของสีนั้น iPhone 13 Mini มีแนวโน้มที่จะมี สีดำ, สีฟ้า, สีม่วง, สีชมพู, สีขาวและสีแดง ในขณะเดียวกัน รุ่น Pro จะวางจำหน่ายใน สีดำ สีเงิน สีทอง และสีบรอนซ์
ทั้งยังมีข้อมูลกล่าวว่า iPhone 13 จะมี ‘รอยบาก’ ที่จะมีขนาดเล็กลงกว่ารุ่นก่อนหน้า แน่นอนว่าแฟนคลับจำนวนมากก็ต่างคาดหวังให้รอยบากดังกล่าวหายไปทั้งหมด แต่ก็อาจจะต้องรอไปถึงการเปิดตัว iPhone 14 ในปี 2022 เลยก็ว่าได้
ส่วนเรื่อง ‘กล้อง’ ก็คาดว่าในครั้งนี้น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ตั้งแต่การเน้นไปที่การถ่ายภาพแบบแนวตั้ง การปรับความสามารถของกล้องแบบอัลตราไวด์ รวมไปถึงข่าวลือเรื่อง ‘โหมดกลางคืน’ ที่อัพเกรดแล้ว และจำให้ผู้ใช้นั้นสามารถถ่ายภาพดวงดาวได้
ซึ่งในทุกรุ่นนั้นจะสามารถใช้การชาร์จแบบไร้สายได้ รวมไปถึงจอแสดงผล 120hz ที่จะทำให้เราได้เห็นภาพเคลื่อนไหวที่นุ่มนวลขึ้นและภาพที่คมชัดยิ่งขึ้น และเรื่องที่สร้างเสียงฮือฮามากที่สุดก็คงหนีไม่พ้น ฟีเจอร์การเชื่อมต่อกับดาวเทียม ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานสามารถส่งข้อความ หรือโทรออกฉุกเฉินเพื่อขอความช่วยเหลือได้
ทั้งนี้คาดว่าราคาของ iPhone 13 อาจจะเพิ่มสูงขึ้นจากปัญหาต่าง ๆ ที่ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น และต้นทุนแรงงานที่สูงขึ้น โดยเชื่อกันว่า iPhone 13 Mini จะเริ่มที่ 699 ดอลลาร์ (ประมาณ 22,962 บาท) iPhone 13 ราคา 799 ดอลลาร์ (ประมาณ 26,247 บาท)
ขณะที่ iPhone 13 Pro ราคา 999-1,049 ดอลลาร์ (ประมาณ 32,817-34,459 บาท) ส่วน iPhone 13 Pro Max อาจเริ่มที่ 1,099-1,149 ดอลลาร์ (ประมาณ 36,102-37,744 บาท)
อย่างไรก็ตามการด้วยรูปลักษณ์และฟังก์ชันของ iPhone 13 ที่ไม่ค่อยแตกต่างจากเดิมหรือยังไม่มีจุดใดที่โดดเด่น ที่ ‘ว้าว’ เลยทำให้สาวก Apple ต่างเบนเข็มไปที่ Apple Watch Series 7 และAirpods pro รุ่นใหม่มากว่าแทน
ที่มา : PCMag / dailystar / Digitimes / @PengPhones / onmanorama