วันอังคาร, 30 เมษายน 2567

รอคอยการมาของ iPhone 16 และ iPhone 16 Pro

04 เม.ย. 2024
48

อีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเตรียมพบกับ  iPhone 16

ไลน์อัปของ iPhone 16

iPhone 16 จะเป็นอีกครั้งหนึ่งที่แอปเปิลมีการเพิ่มขนาดหน้าจอให้ใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า iPhone 16 Pro มีขนาดหน้าจอที่ 6.3 นิ้ว ส่วน iPhone 16 Pro Max อยู่ที่ 6.9 นิ้ว ซึ่งถือเป็นการอัปเกรดขนาดหน้าจอครั้งแรกในรอบหลายปี

ส่วน iPhone 16 และ iPhone 16 Plus คาดว่าอาจยังมีขนาดหน้าจอเท่ากับ iPhone 15 และ iPhone 15 Plus ตามเดิม นั่นคือ 6.1 นิ้ว และ 6.7 นิ้ว ตามลำดับ

ไม่น่าจะมี iPhone 16 Ultra

ในระยะหลังแอปเปิล มักใช้คำว่า Ultra ต่อท้ายชื่อผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในกลุ่มไฮเอนด์ ไม่ว่าจะเป็น Apple Watch Ultra และชิป M2 Ultra เป็นต้น จนทำให้เกิดการคาดหมายกันว่า มีโอกาสที่จะได้เห็น iPhone 16 Ultra ซึ่งเป็นรุ่นที่ “แพงกว่า” iPhone 16 Pro Max เสียอีก โดยมาพร้อมกับจุดเด่นในด้านกล้อง และจอแสดงผล

อย่างไรก็ดี จนถึงตอนนี้ยังไม่พบสัญญาณชีพของ iPhone 16 Ultra โดยเฉพาะจากซอร์สโค้ดจากระบบปฏิบัติการ iOS 18 ก็ไม่มีการพูดถึงใดๆ เกี่ยวกับ iPhone 16 Ultra มีเฉพาะไลน์อัปดั้งเดิมของทั้ง 4 โมเดลของ iPhone 16 จึงเชื่อได้ว่า รุ่น Ultra ของไอโฟนอาจยังไม่ปรากฏตัวในเร็วๆ นี้

ไม่มี iPhone 16 Fold

ตามรายงานของอินฟอร์เมชัน ระบุว่า แอปเปิลเริ่มต้นการพัฒนาตัวต้นแบบของไอโฟนจอพับตั้งแต่ปี 2018 ซึ่งมีด้วยกันสองรุ่น โดยมีลักษณะการพับที่คล้ายคลึงกับ Galaxy Z Flip ของซัมซุง เพียงแต่การพัฒนาสมาร์ทโฟนจอพับของแอปเปิลเป็นสิ่งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ เนื่องจากการพัฒนาหน้าจอที่อยู่ภายนอกตัวเครื่องยังไม่ได้ใกล้เคียงกับมาตรฐานที่แอปเปิลวางเอาไว้ ทำให้การวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในระดับแมส (Mass) จึงยังไม่เกิดขึ้น

ปัญหาประการต่อมา คือ การออกแบบไอโฟนแบบพับได้ยังมีข้อจำกัดอีกมากโดยเฉพาะเรื่องของความบางของตัวเครื่อง ซึ่งทีมวิศวกรต้องการให้มีความบางเท่ากับความบางของไอโฟนรุ่นปัจจุบัน (iPhone 15 บาง 7.8 มม. ส่วน iPhone 15 Pro บาง 8.3 มม.) แต่ยังทำเช่นนั้นไม่ได้ เพราะติดปัญหาเรื่องของแบตเตอรี่และส่วนประกอบของหน้าจอ

ดิ อินฟอร์เมชัน กล่าวว่า แอปเปิลได้หยุดการพัฒนาไอโฟนแบบพับได้เอาไว้ตั้งแต่ปี 2020 ที่ผ่านมา แล้วเปลี่ยนไปพัฒนาไอแพดแบบพับได้แทน ดังนั้น iPhone 16 Fold ไม่น่าจะเป็นโครงการที่ได้เห็นเร็ววันนี้

การออกแบบ iPhone 16

ในด้านการออกแบบของ iPhone 16 คาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงแต่เพียงเล็กน้อย โดยเปลี่ยนรูปแบบการวางของกล้องจากเดิมที่เป็นแนวทแยง ปรับไปเป็นแบบแนวตั้ง คล้ายกับไอโฟนรุ่นก่อนหน้านี้

สีใหม่ Desert Yellow และ Cement Gray

แม้ว่าเวลานี้ยังอยู่ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2024 แต่ข่าวคราวเกี่ยวกับ iPhone 16 ก็มีออกมาให้เห็นเยอะทีเดียว โดยเฉพาะในรุ่น iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max

ในปี 2024 นี้จะได้พบกับสีที่ไม่ค่อยได้เห็นนักอย่าง สีเหลือง Desert Yellow และสีเทา Cement Gray

เว็บไซต์ MacRumors อ้างอิงจากบัญชีผู้ใช้เอ็กซ์ที่มีชื่อว่า @MajinBuOfficial เกี่ยวกับสีใหม่ของ iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max ว่า สีเหลือง Desert Yellow มีลักษณะที่คล้ายคลึงกับสีทองของ iPhone 14 Pro แต่สีของสีเหลือง Desert Yellow จะมีความเข้มกว่า

ขณะที่ สีเทา Cement Gray คล้ายกับสีที่เคยปรากฏบน iPhone 6 เมื่อ 10 ปีที่แล้ว

ในเรื่องของสีโมเดล iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max ก็มีโอกาสถูกเรียกในชื่ออื่นๆ ได้เช่นกัน ดังเช่น สีเหลือง Desert Yellow ก็อาจมาในชื่อ Desert Titanium และ สีเทา Cement Gray ในชื่อ Titanium Gray

ชิปเซต iPhone 16 และ iPhone 16 Pro

ชิปเซต iPhone 16 และ iPhone 16 Plus คาดว่าจะใช้ชิปเซต Apple A17 Pro (3 nm) แต่ iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max จะเปลี่ยนไปใช้ Apple A18 รุ่นใหม่

อย่างไรก็ดี แอปเปิลอาจลดความสับสนในเรื่องของการใช้ชิปเซตระหว่าง iPhone 16 และ iPhone 16 Pro ด้วยการเพิ่มคำว่า “Pro” ในชิปเซต กล่าวคือ iPhone 16 และ iPhone 16 Plus ใช้ชิป Apple A18 แต่ iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max เป็นชิป Apple A18 Pro นั่นเอง

แบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้นของ iPhone 16 Pro 

แบตเตอรี่ของ iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max คาดว่าน่าจะมีขนาดที่ใหญ่กว่า iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max มีจุดเด่นในด้านประจุที่เพิ่มมากขึ้น แต่มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าเดิม มีการปรับปรุงประสิทธิภาพการบริโภคของแบตเตอรี่

ทั้งนี้ แบตเตอรี่ของ iPhone 16 Pro คาดว่าจะอยู่ที่ 3,355 mAh ส่วน iPhone 16 Pro Max น่าจะมีขนาดความจุที่มากกว่า 4,441 mAh ของ iPhone 15 Pro Max

Action Button ในทุกรุ่นของ iPhone 16

เมื่อปี 2023 แอปเปิลได้วาง Action Button เฉพาะรุ่น iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max เพียงแต่ในรุ่นของ iPhone 16 ฟีเจอร์ Action Button รองรับครบถ้วนในไอโฟน 16 ทุกโมเดลแล้ว

แต่ iPhone 16 จะมีความแตกต่างเพิ่มเติมด้วย “Capture Button” ซึ่งจะช่วยให้ชัตเตอร์การถ่ายภาพทำได้สะดวกขึ้น อีกทั้งยังสามารถรองรับแรงกดในรูปแบบต่างๆ ได้ด้วย

กล้อง iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max

แอปเปิลได้ยกระดับการถ่ายภาพของ iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max เป็นพิเศษ เริ่มจากกล้องอัลตราไวด์ จากเดิมที่มีขนาด 12 ล้านพิกเซล ขยับเพิ่มมาเป็น 48 ล้านพิกเซล มีคุณสมบัติในด้านการรวมแสงได้ดีขึ้น เช่นเดียวกับการถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยที่มีคุณภาพดีกว่าเดิม

นอกจากนี้ กล้องของ iPhone 16 Pro จะได้รับการยกระดับการซูมจากเดิมที่ซูมได้ 3 เท่าจากรุ่น iPhone 15 Pro เพิ่มไปเป็น 5 เท่า ส่วน iPhone 16 Pro อาจยังคงระยะการซูมที่ 5 เท่าเช่นเดิม

คุณสมบัติด้าน AI

จากข้อมูลที่มีการเปิดเผยบนโลกอินเทอร์เน็ต มีความเป็นไปได้ว่าคุณสมบัติด้านเอไอ อาจมีมาเฉพาะ iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max ซึ่งเป็นสองรุ่นระดับสูงของซีรีส์ iPhone 16

ประเด็นเรื่องความสามารถด้านปัญญาประดิษฐ์ได้รับการเปิดเผยโดยทิม คุก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแอปเปิล ยืนยันว่า บริษัทได้ลงทุนในเทคโนโลยีที่จะกำหนดอนาคต ซึ่งนั่นรวมถึงปัญญาประดิษฐ์ด้วย คาดว่าในงาน WWDC 2024 ที่จัดขึ้นในช่วงเดือนมิถุนายนนี้ น่าจะได้เห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับเทคโนโลยีเอไอของแอปเปิล

อย่างไรก็ดี ฟีเจอร์เอไอของ iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะมีคุณลักษณะแบบใด หรืออาจมีคุณสมบัติที่ช่วยเหลือด้านการถ่ายภาพเป็นพิเศษ

ข้อมูลโดยสรุป

iPhone 16 และ iPhone 16 Pro เปิดตัวในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของปี 2024 ซึ่งตรงกับช่วงกันยายน คาดว่าจะมีด้วยกัน 4 โมเดล ได้แก่ iPhone 16, iPhone 16 Plus, iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max

ขนาดหน้าจอของ iPhone 16 และ iPhone 16 Pro ในภาพรวมมีขนาดที่ใหญ่กว่า iPhone 15 กล่าวคือ ขนาดหน้าจอจะเพิ่มขึ้นเป็น 6.3 นิ้ว และ 6.9 นิ้ว

นอกจากนั้นแล้ว Action button จะมีมาใน iPhone 16 ทุกรุ่น และชิปเซตที่ดีกว่ารุ่นก่อน